แนะนำก่อนดู รีวิวหนัง Songbird โควิด 23 ไวรัสล้างโลก (2020)

oldthaitvกุมภาพันธ์ 22, 2024
Songbird โควิด 23 ไวรัสล้าง

ตอนนี้ก็เป็นช่วงเวลาที่โลกกำลังต่อสู้กับโรคระบาด Covid-19 ที่ยังคงแพร่ระบาดและมีผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของเรามาเป็นระยะเวลาเกือบ 1 ปีแล้วเต็มๆ และในขณะที่สถานการณ์ยังคงซับซ้อนอยู่ทั่วโลก มีหนังฮอลลิวูดที่ถูกปล่อยออกมาในเวลาที่ทันสมัย เป็นผลงานที่นำเสนอโดย “นายหน้าแห่งภาพยนตร์สุดแสนเท่ Michael Benjamin Bay” และนั่นคือ “Songbird Covid-23 ไวรัสล้างโลก” ซึ่งเป็นผลงานที่ตอบสนองสถานการณ์ปัจจุบันอย่างลงตัวที่สุดครับ มันเป็นเรื่องราวที่ดึงดูดความสนใจเพราะมันเข้าใจและสะท้อนสถานการณ์ที่เรากำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบันอย่างสมจริงจังและกำลังบานเย็นอย่างเห็นได้ชัด มันทำให้ผู้ชมรู้สึกเชื่อมั่นและมีความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และสร้างความเกี่ยวข้องกับเนื้อหาในหนังอย่างมากครับ

Songbird-02

ปี 2020 ปีแห่งความวิปโยคโศกศัลย์

ปี 2020 (และน่าจะยังคงมีผลสะท้อนไปถึงปีถัดไปด้วย) กลายเป็นช่วงเวลาที่วงการภาพยนตร์ถูกล้มเหลวและทุกข์ยากอย่างแท้จริงครับ ไม่เชื่อว่าไวรัส Covid-19 จากไวรัสนั้นสามารถทำให้วงการภาพยนตร์ปิดตัวและหยุดดำเนินการตั้งแต่การถ่ายทำ แต่ก็เป็นความจริงเนียนนานครับ สำหรับผลงานที่ได้เสร็จสมบูรณ์ไปแล้วก็ต้องเผชิญกับการระบาดของโรคที่ทำให้โรงหนังปิดตัว และถ้าหากมีการเผชิญกับการฉายหนัง เช่นการกัดฟันในการเปิดตัว ก็เสี่ยงต่อการไม่ได้รับกำไรเพียงพอ เพราะผู้คนไม่ค่อยกล้าเข้าโรงหนัง เรียกได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่หดหู่ทั้งอุตสาหกรรมจากขั้วล่างถึงขั้วบนของวงการภาพยนตร์

Songbird-03

เรื่องย่อ โควิด 23 ไวรัสล้าง

ในโลกอนาคตปี 2024 ภัยพิบัติจากไวรัส Covid-23 ระบาดอย่างรุนแรง และเกิดการสูญเสียชีวิตมากถึงกว่า 110 ล้านคนทั่วโลกไปแล้วครับ ในช่วงเวลานี้ เรื่องราวมุ่งมั่นที่น่าสนใจเกิดขึ้นกับ นิโก (KJ Apa) หนุ่มผู้มีร่างกายที่มีภูมิคุ้มกันสูง ความรักของเขาที่สูงสุด ซารา (Sofia Carson) หายหน้าไม่เจอกันตั้งแต่เริ่มระบาดของไวรัส ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะมาสอบถามเพื่อทราบว่าเธอติดเชื้อหรือไม่ นิโกจึงต้องเดินทางอย่างเร่งด่วนเพื่อช่วยเหลือซาราก่อนที่สถานการณ์จะเลวร้ายลงไป และต้องเผชิญกับอุปสรรคทุกอย่างเพื่อเร่งหาทางช่วยเธอได้ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดใด ๆ

Songbird-04

วิจารณ์หนัง

“Songbird โควิด-23 ไวรัสล้างโลก” เป็นหนังที่กล่าวถึงเหตุการณ์ในอนาคตใกล้ปี 2024 ที่โลกถูกปกคลุมด้วยไวรัสที่ร้ายกาจและเฉื่อยชา โรคระบาดนี้เป็นผลมาจากการกลายพันธุ์ของไวรัสที่ก่อให้เกิด Covid-23 ซึ่งทำให้ผู้ติดเชื้อต้องเผชิญกับอาการรุนแรงมากขึ้น การแยกแยะกลุ่มคนก็เป็นเรื่องสำคัญในช่วงเวลานั้น คนที่มีระบบภูมิคุ้มกันสูงมักจะได้รับเสรีภาพมากกว่าคนที่มีระบบภูมิคุ้มกันต่ำ ซึ่งภาครัฐจึงบังคับให้ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำต้องอยู่ในบ้านเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของไวรัสไปยังคนอื่น ๆ ในสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ความหวังสุดท้ายก็คือการค้นหาวิธีในการต่อสู้กับไวรัสนี้เพื่อให้โลกกลับสู่สภาพปกติได้โดยเร็วที่สุด

ในหนังเรื่องนี้เน้นที่เรื่องราวในชีวิตทั้งสองของ นิโก้ และ ซาร่า ที่ต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ทวีคูณกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โดยเรื่องราวนี้เน้นที่ความรักที่กำลังก่อตัวขึ้นระหว่างพวกเขา นิโก้และซาร่าพยายามหาทางออกจากเมืองที่เต็มไปด้วยการระบาดของเชื้อไวรัส เพื่อที่จะเริ่มชีวิตใหม่ในสถานที่ที่พวกเขาเชื่อว่าปลอดภัยจากเชื้อไวรัส แต่การตามหาอิสรภาพไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะพวกเขาต้องเผชิญหน้ากับการทดลองและสถานการณ์ที่ท้าทายอย่างมาก

Songbird-05

ในข่าวที่เราได้ยินกันมา Songbird ถือเป็นหนังเรื่องแรกๆ ที่กล้าเริ่มกล้องถ่ายทำในช่วงเวลาที่มีมาตรการล็อกดาวน์อยู่ในเมืองลอสแองเจลิส มันเป็นการท้าทายที่ใหญ่ขนาด และทีมถ่ายทำได้สามารถจับภาพบรรยากาศเมืองที่ว่างเปล่าและอันเงียบสงบได้อย่างเชี่ยวชาญ แต่น่าเสียดายที่น่าจะมีส่วนดีน้อยมากในหนังนี้

Songbird กลายเป็นหนังที่มีคุณค่าเฉพาะอยู่ที่เนื้อหาที่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันอย่างลงตัว ผู้ชมสามารถเข้าถึงและสัมผัสถึงบรรยากาศต่าง ๆ ได้อย่างเชี่ยวชาญ แม้แต่ในทางของส่วนหน้าตาของหนังที่มีบางส่วนที่แปลกประหลาด หนังนี้มาพร้อมกับเรื่องราวหลักที่เล่าถึงความรักของคู่รักหนุ่มสาวที่ต้องต่อสู้กับอุปสรรคจากไวรัสร้ายในยุคนี้ แต่กลับเสียดสีด้วยเหตุการณ์และผลกระทบต่าง ๆ ที่ถูกละทิ้งไปตามทาง

Songbird-06

การแสดงของ “เค.เจ. อาปา” และ “โซเฟีย คาร์สัน” ในหนังนี้จริง ๆ แล้วทำได้ดีอย่างไม่น่าประหลาดเลยครับ แต่ความเฉียบชาตาง ๆ ของบทโปรดเล่ห์ กับบทแรกเก่งของพวกเขา ทำให้หนังนี้ดูเป็นเรื่องตามสูตรและน่าเบื่อไปนิดนึง แม้ว่ามันจะมีการใส่เพลงเป็นตัวกำหนดความตื่นเต้นและความระทึกใจไว้อยู่ตลอดเวลา ซึ่งเป็นลักษณะที่มักเจอในหนังของไมเคิล เบย์บางเรื่องแล้วครับ แต่ก็ยังคงเป็นหนังที่ค่อนข้างง่ายๆ และไม่มีมิติมากนักในทางเนื้อหา

งานสร้างของ “อดัม เมสัน” ในหนังนี้ถือว่าค่อนข้างน่าพอใจครับ แต่อาจจะมีข้อจำกัดต่างๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างการถ่ายทำทำให้หนังยังขาดความสมจริงบางส่วน และดูธรรมดาเหมือนหนังแผ่นหรือการฉายทางโทรทัศน์ที่มีงบประมาณสร้างเพียงไม่กี่แสนเหรียญ ซึ่งทำให้ผลงานดูเป็นอย่างที่ยังไม่ถึงสเต็ปขั้นสูงสุดที่ควรจะเป็นได้ครับ

แม้จะมีความพยายามในการเชื่อมโยงและขยายบทให้กับตัวละครสมทบอื่นๆ ที่มาเสริมความน่าสนใจ เช่น “เดมี มัวร์”, “แบรดลีย์ วิตฟอร์ด” หรือ “อเล็กซานดร้า ดาแดริโอ” มาร่วมแสดง แต่ผลลัพธ์ที่ได้ออกมากลับไม่ได้อยู่ในระดับที่คาดหวัง เพราะบทบาทของพวกเขาไม่น่าจดจำใดๆ เลย มีความตื้นเขินและเชยอย่างน่าผิดหวัง เหมือนว่าไม่มีสิ่งใดที่น่าสนใจเลยถูกเสนอให้ดูดีลง

แต่อย่างไรก็ตาม ในเชิงบันเทิง Songbird Covid-23 ไวรัสล้างโลก ก็ยังมีคุณภาพที่พอใช้ได้ ตัวหนังไม่ได้ทำให้ผู้ชมรู้สึกไม่พอใจตลอดเวลา แม้ว่าในช่วงแรกๆ อาจจะถือว่าเนื้อเรื่องเริ่มเบื่อบ้าง แต่ต้องยอมรับว่าหนังมีการใช้จังหวะนี้เพื่อนำเสนอตัวละครได้อย่างเหมาะสม ก่อนที่จะเพิ่มความน่าสนใจและตื่นเต้นให้กับผู้ชมในช่วงครึ่งหลังของเรื่อง

Songbird-08

ภาพโดยรวม

โดยภาพรวมแล้ว Songbird โควิด-23 ไวรัสล้างโลก ถือเป็นหนังที่มีการตอบสนองต่อสถานการณ์ปัจจุบันอย่างเหมาะสม และอาจเป็นหนังที่เกี่ยวกับเชื้อโคโรนาไวรัสเป็นเรื่องแรกๆ ของโลกที่ได้รับความสนใจ ในทางของความเชื่อถือได้และการสร้างภาพ เนื่องจากหนังยังคงมีข้อบกพร่องในแง่ของความจริงและการพัฒนาเนื้อเรื่อง แต่ก็ยังมีจุดเด่นที่สามารถสร้างบรรยากาศที่สมจริงและทำให้ผู้ชมลงตัวได้อย่างไม่ยาก แม้ว่าการสรุปเนื้อเรื่องของหนังยังไม่สามารถนำเสนอทางออกให้กับมนุษย์ได้เหมือนในโลกปัจจุบันอย่างเต็มที่

ตัวอย่างก่อนดู Songbird โควิด 23 ไวรัสล้างโลก

Categories