เป็นภาพยนตร์ไทยที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2556 ที่มาในเวอร์ชั่น สยองขวัญ / โรแมนติก / ตลก กำกับโดย กอล์ฟ-ปวีณ ภูริจิตปัญญา และอำนวยการสร้างโดย จีทีเอช ภาพยนตร์เรื่องนี้ดัดแปลงมาจากตำนาน แม่นาคพระโขนง ผีพื้นบ้านไทย ตำนานผีที่น่าจะเรียกได้ว่าดังที่สุดในไทย ได้ถูกสร้างเป็นหนังมาแล้วหลายครั้ง รวมไปจนถึงการละครและละครเวที และในครั้งนี้ถูกนำแสดงโดย มาริโอ้ เมาเร่อ รับบทเป็น พี่มาก คู่กับ ดาวิกา โฮร์เน่ รับบทเป็น แม่นาก ในเวอร์ชั่นนี้ถือได้ว่าประสบความสำเร็จในการเป็นภาพยนตร์ที่ทำเงินสูงสุดในประเทศไทย และเป็นภาพยนตร์ทำรายได้มากที่สุดของ GTH จนมาถึงปี พ.ศ. 2566 หรือ ค.ศ. 2023 นี้
เนื้อเรื่องของ แม่นาคและพ่อมาก ได้ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์หลายต่อหลายครั้ง ในวันที่ 28 มีนาคม ที่ผ่านมา ทาง GTH เลือกใช้ตำนานที่เคยถูกลืมไปนานของ “พี่มาก” ผู้ชายที่ “แม่นาค” รักอย่างลึกซึ้ง และเป็นเพื่อนกับ 4 หนุ่มโดยมี เผือก (พงศธร จงวิลาส), เต๋อ (ฟรอยด์-ณัฏฐพงษ์ ชาติพงศ์), ชิน (เชน-อัฒรุต คงราศรี), เอ (บอมบ์-กันตพัฒน์ เพิ่มพูนพัชรสุข) พากันกลับสู่พระโขนง เมื่อพบกับแม่นาค ความสนุกและความน่ากลัวก็เกิดขึ้น จึงสร้างเป็นภาพยนตร์ผสมผสานระหว่างความตลก โรแมนติก และความเฮี้ยน ภาพยนตร์ที่มีชื่อเรื่องสุดเก๋อย่าง “พี่มาก..พระโขนง” นำโดย “โต้ง-บรรจง ปิสัญธนะกูล” ผู้กำกับที่มีผลงานที่เป็นที่นิยมอย่าง “สี่แพร่ง”, “ห้าแพร่ง”, และ “กวนมึนโฮ”
“พี่มากพระโขนง” เป็นภาพยนตร์ที่ โต้ง-บรรจง ผู้กำกับ ได้นำเสนอเรื่องราวใหม่ขึ้นมา นำไอเดียจากความคิดว่า การนำ 4 คนจากแก๊งค์คนกลางและคนกองในภาพยนตร์เรื่อง “สี่แพร่ง” และ “ห้าแพร่ง” ไปเป็นเพื่อนกับพี่มาก ซึ่งเป็นการตีความใหม่ของเรื่องราว ทุกคนเจอปัญหาว่าจะบอกเพื่อนถึงความจริงที่เมียของเพื่อนเป็นผี และต้องหาวิธีในการแสดงออก ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของความสนุกที่สร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ชม และความลึกลับของเรื่องรักของแม่นาคที่ยังคงมีคนพูดถึงจนปัจจุบันและต่ออีกร้อยปีก็ยังมีคนพูดถึงกัน และยังมีคนอยากเล่าสู่กันฟังอยู่ เพราะเป็นเรื่องรักที่ยิ่งใหญ่และเป็นอมตะไม่มีวันลืมเลือน ที่ความรักครั้งนั้นไม่สามารถพรากจากหายไปได้
การสร้างภาพยนตร์ “พี่มากพระโขนง” เป็นผลลัพธ์ของการทำงานอย่างหนักของทีมงาน ด้วยความห่วงใยและความพยายามที่ไม่รู้จบ เราใช้เวลาในการเขียนบทปีครึ่ง ทุกขั้นตอนในการสร้างภาพยนตร์นี้เต็มไปด้วยความรักและความมุ่งมั่นที่จะนำเสนอผลงานที่สมบูรณ์แบบที่สุดในแบบของตัวเอง ภาพลักษณ์ของ พี่มาก ในรูปแบบนี้ เป็นผู้ชายที่มีความรักสำหรับเมียอย่างแท้จริง มีความน่ารักและความขี้อ้อน ถึงแม้จะมีบทมุขตลกอยู่ในบางช่วง แต่ในเส้นทางของความรัก ภาพยนตร์นี้เต็มไปด้วยความโรแมนติกของ โอ้ กับ ใหม่ ความสวยงามของความรักถูกสื่อสารได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทุกคนในทีมงานห่วงใยและให้ความสำคัญกับทุกด้านของการสร้างภาพยนตร์นี้ นี่เป็นภาพยนตร์ที่ทำให้รู้สึกมีความสุขมากที่สุด ที่ได้ทำงานในภาพยนตร์นี้ ยิ่งตั้งแต่เริ่มถ่ายภาพยนตร์ แม้กระทั่งตอนหลังจากการตัดต่อฉาก ต้องการควบคุมความฮาของตนเองและคงความอึดอัดเหมือนคนบ้า ทำให้การไหลของน้ำตาไม่หยุดหย่อน เสียงหลุดเข้าไปในฉาก อันไหนที่ฮาสุด ๆ ก็ปล่อยให้นักแสดงเล่นต่อแบบไม่สั่งคัท ทุกคนทำงานหนักอย่างเต็มที่ การสร้างช่วงความรักของ พี่มาก ที่มีต่อแม่นาค สร้างความอึดอัดที่หนักใจแก่ทุกคนในทีมงาน จนทำให้น้ำตาไหลกันเต็ม